กฎหมายใหม่ของฮ่องกงกำหนดให้สารสกัด CBD จากกัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายเทียบเท่าเฮโรอีนและโคเคน
ข่าวต่างประเทศ 25 Mar 2023
ในวันพุธที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ ฮ่องกงมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้การครอบครอง การบริโภค และการจำหน่ายสารสกัด Cannabidiol (CBD) จากกัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายและมีโทษทางอาญา ซึ่ง CBD เป็นสารสกัดจากกัญชาที่มีสรรพคุณช่วยลดความเจ็บปวด ความเครียด ความวิตกกังวลและลดการอักเสบ โดยมีการกำหนดให้ CBD ถูกจัดประเภททางกฎหมายให้อยู่ในระดับเดียวกับเฮโรอีนและโคเคน โดยให้เหตุผลว่า CBD เป็นสารที่สามารถเปลี่ยนไปเป็น THC ซึ่งมีผลออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและเป็นสารที่ผิดกฎหมายในฮ่องกง
โดยบทลงโทษสำหรับผู้นำเข้า ส่งออก หรือผลิต CBD ได้แก่ โทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับสูงสุด ๕ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ ๒๑ ล้านบาท) ซึ่งมีอัตราโทษเทียบเท่ายาอันตรายกว่า ๒๐๐ ประเภทที่ถูกสั่งห้ามในฮ่องกง ส่วนผู้ครอบครองหรือใช้ CBD จะได้รับโทษจำคุก ๗ ปี และปรับ ๑ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ ๔.๑๙ ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ทางการของฮ่องกงได้ให้เวลาผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการกำจัดหรือทำลายสารผิดกฎหมายดังกล่าวหรือสินค้าที่อาจมีส่วนผสมของ CBD ที่อยู่ในความครอบครองเป็นระยะเวลา ๓ เดือนแล้ว ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ ข้อมูลจากรายงานของทางการในสัปดาห์ก่อนหน้า ระบุว่าสิ่งของกว่า ๗๗,๔๐๐ รายการถูกขนถ่ายทิ้งลงในถังขยะของรัฐบาล
กฎหมายดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและมีผลให้ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดตัวลงในที่สุด โดยนาย Chris Wong เจ้าของร้าน HK Brewcraft กล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า เขาจำเป็นต้องหยุดขายเบียร์ชนิดหนึ่งที่ขายดีที่สุดและยังมีลูกค้าโทรมาถามถึงสินค้าของร้านทุกวัน ส่วนร้านขายเครื่องดื่ม The Found cafe ซึ่งเป็นร้านแห่งแรกที่นำเสนออาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ CBD เป็นจุดขาย ซึ่งเปิดในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ต้องปิดตัวลงในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่นเดียวกันกับนาย Luke Yardley เจ้าของโรงเบียร์ Yardley Brothers Craft Brewery ที่ถูกบังคับให้ต้องหยุดผลิตเบียร์สูตรที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเขากล่าวว่าเขารู้สึกเหมือนว่าฮ่องกงในตอนนี้กำลังถดถอยลงไปเรื่อย ๆ
ในขณะที่ CBD ในหลายประเทศเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ไทย หลายประเทศในยุโรป โดยขณะนี้มีหลายประเทศที่พยายามจะทำให้ CBD เป็นสารถูกกฎหมาย แต่ประเทศจีนกำหนดให้ CBD เป็นสิ่งผิดกฎหมายในปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ข่าวประจำวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.cbsnews.com/news/hong-kong-cbd-criminalized-ranks-with-heroin-cocaine/
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
โดยบทลงโทษสำหรับผู้นำเข้า ส่งออก หรือผลิต CBD ได้แก่ โทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับสูงสุด ๕ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ ๒๑ ล้านบาท) ซึ่งมีอัตราโทษเทียบเท่ายาอันตรายกว่า ๒๐๐ ประเภทที่ถูกสั่งห้ามในฮ่องกง ส่วนผู้ครอบครองหรือใช้ CBD จะได้รับโทษจำคุก ๗ ปี และปรับ ๑ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ ๔.๑๙ ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ทางการของฮ่องกงได้ให้เวลาผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการกำจัดหรือทำลายสารผิดกฎหมายดังกล่าวหรือสินค้าที่อาจมีส่วนผสมของ CBD ที่อยู่ในความครอบครองเป็นระยะเวลา ๓ เดือนแล้ว ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ ข้อมูลจากรายงานของทางการในสัปดาห์ก่อนหน้า ระบุว่าสิ่งของกว่า ๗๗,๔๐๐ รายการถูกขนถ่ายทิ้งลงในถังขยะของรัฐบาล
กฎหมายดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและมีผลให้ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดตัวลงในที่สุด โดยนาย Chris Wong เจ้าของร้าน HK Brewcraft กล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า เขาจำเป็นต้องหยุดขายเบียร์ชนิดหนึ่งที่ขายดีที่สุดและยังมีลูกค้าโทรมาถามถึงสินค้าของร้านทุกวัน ส่วนร้านขายเครื่องดื่ม The Found cafe ซึ่งเป็นร้านแห่งแรกที่นำเสนออาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ CBD เป็นจุดขาย ซึ่งเปิดในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ต้องปิดตัวลงในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ เช่นเดียวกันกับนาย Luke Yardley เจ้าของโรงเบียร์ Yardley Brothers Craft Brewery ที่ถูกบังคับให้ต้องหยุดผลิตเบียร์สูตรที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเขากล่าวว่าเขารู้สึกเหมือนว่าฮ่องกงในตอนนี้กำลังถดถอยลงไปเรื่อย ๆ
ในขณะที่ CBD ในหลายประเทศเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ไทย หลายประเทศในยุโรป โดยขณะนี้มีหลายประเทศที่พยายามจะทำให้ CBD เป็นสารถูกกฎหมาย แต่ประเทศจีนกำหนดให้ CBD เป็นสิ่งผิดกฎหมายในปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ข่าวประจำวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.cbsnews.com/news/hong-kong-cbd-criminalized-ranks-with-heroin-cocaine/
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
การค้นหาขั้นสูง
© 2017 Office of the Council of State.