BANNER

รัฐสภาอินโดนีเซียมีมติผ่านร่างกฎหมาย ห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสและอยู่กินก่อนการสมรส ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก


 ข่าวต่างประเทศ      07 Dec 2022

  


สมาชิกรัฐสภาของอินโดนีเซียลงมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เมื่อวันอังคารที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งกำหนดให้การมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน หรืออยู่กินก่อนแต่งงานเป็นความผิดอาญา มีโทษจำคุกสูงสุด ๑ ปี ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการคุกคามสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยของอินโดนีเซีย ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มีผลต่อแค่พลเมืองชาวอินโดนีเซียเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงชาวต่างชาติในประเทศและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในอินโดนีเซียด้วย

Bambang Wuryanto หนึ่งในสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้นำคณะกรรมาธิการรัฐสภาที่รับผิดชอบในการแก้ไขประมวลกฎหมายฉบับนี้กล่าวว่า “กฎหมายฉบับเดิมเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากชาวเนเธอร์แลนด์ในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งจะไม่มีผลในปัจจุบันอีกต่อไป”

ที่ผ่านมา อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายเรื่องเพศ ที่ถูกเชื่อมโยงกับศาสนาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการลงโทษอย่างรุนแรงในจังหวัดอาเจะห์ เช่น การเฆี่ยนตีคู่รักเพศเดียวกัน รวมทั้งคู่รักที่มีพฤติกรรมนอกใจสามีหรือภรรยาของตน
กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนประท้วงต่อต้านการออกกฎหมายใหม่และปรับแก้กฎหมายดังกล่าวว่าเป็นการบั่นทอนเสรีภาพของประชาชนและเป็นการนำประเทศก้าวถอยหลังไปสู่ระบอบที่ยึดความเชื่อตามศาสนาอย่างเคร่งครัดและตีความตามตัวอักษร

ในด้านของ Yasonna Laoly รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนมีการเชื้อเชิญให้กลุ่มที่ไม่พอใจกับการแก้ไขกฎหมายทำการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณา นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าทุกสิ่งที่สภานิติบัญญัติได้ทำนั้นเป็นไปตามความปรารถนาของคนส่วนใหญ่แล้ว

ในขณะที่กลุ่มภาคธุรกิจเตือนว่า กฎหมายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยเฉพาะในธุรกิจที่เน้นการให้บริการชาวต่างชาติเป็นหลักและธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น เกาะบาหลีที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่และขณะนี้เศรษฐกิจก็กำลังชะลอตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙



ข่าวประจำวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๕
แปลและเรียบเรียงจาก https://edition.cnn.com/2022/12/05/asia/indonesia-new-code-passed-sex-cohabitation-intl-hnk/index.html
https://www.thaipbs.or.th/news/content/322288
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย

© 2017 Office of the Council of State.