ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๔ เป็นต้นมา ธนาคารโลก หรือ World Bank จัดทำรายงานประจำปีเพื่อจัดลำดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ของประเทศและเขตการปกครอง ที่ขณะนี้มีจำนวนมากกว่า ๑๙๐ แห่งทั่วโลก สำหรับในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ฟิลิปปินส์อยู่ในลำดับรั้งท้าย คือลำดับที่ ๑๒๔ ซึ่งรายงานระบุว่ากฎระเบียบของฟิลิปปินส์บางส่วนยังไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่อมารายงาน Doing Business ฉบับปี พ.ศ.๒๕๖๓ ฟิลิปปินส์กลับขึ้นมาเป็นประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยอยู่ในลำดับที่ ๙๕ ขึ้นมาจากปีก่อนถึง ๒๙ ลำดับ รายงานระบุว่าฟิลิปปินส์มีการพัฒนาใน ๓ ด้านด้วยกัน คือ ๑. การเริ่มต้นธุรกิจ (starting a business) ๒.การขอใบอนุญาตก่อสร้าง (dealing with construction permits) และ ๓.การคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย (protecting minority investors) บทความนี้จึงจะขอนำเสนอการผ่อนคลายกฎระเบียบและการดำเนินนโยบายที่สนับสนุนการประกอบธุรกิจของฟิลิปปินส์ อาทิ การประกาศใช้กฎหมาย Ease of Doing Business and Efficient Government Service Delivery Act หรือ RA 11032 ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ การแก้ไขกฎหมาย Corporation Code และการออกกฎหมายส่งเสริมการประกอบธุรกิจของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒