อิหร่านระงับการบังคับใช้กฎหมายการแต่งกายสำหรับสตรีฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น
ข่าวต่างประเทศ 01 Feb 2025
ในเบื้องต้น กฎเกณฑ์การแต่งกายที่เข้มงวดในอิหร่านซึ่งบังคับใช้กับสตรีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถือเป็นกฎหมายด้านความมั่นคงแห่งชาติที่กำกับดูแลโดยผู้ปกครองอิหร่านมายาวนานหลายทศวรรษ และเคยเป็นต้นเหตุของการก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงมาก่อน
ซึ่งปัจจุบันความเป็นไปได้ที่จะเกิดการอภิปรายและประท้วงกฎหมายนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากเหตุการณ์เมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ นักร้องชื่อดังชาวอิหร่านชื่อว่า Parastoo Ahmadi ถูกจับกุมหลังจากสตรีมคอนเสิร์ตออนไลน์บนแพลตฟอร์ม YouTube โดยไม่ได้สวมฮิญาบ ทำให้คอนเสิร์ตดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็ว และการจับกุม Parastoo Ahmadi รวมถึงเพื่อนร่วมวงของเธอ ทำให้เกิดกระแสเชิงลบต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่อย่างกว้างขวาง จากการเผชิญหน้ากับเสียงคัดค้านจากประชาชนอย่างล้นหลาม ทำให้เจ้าหน้าที่ทำการปล่อยตัวพวกเขาในวันถัดมา
ขณะเดียวกัน ช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน นักเขียน และนักข่าวชาวอิหร่านกว่า ๓๐๐ คน ได้ออกมาประณามกฎหมายฮิญาบฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่ากฎหมายนี้ผิดกฎหมายและบังคับใช้ไม่ได้ และเรียกร้องให้ประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian ปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องนโยบายที่เขาเคยหาเสียงไว้ก่อนดำรงตำแหน่ง ในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ซึ่งเขาที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในขณะนั้น ได้วิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติต่อสตรีชาวอิหร่าน โดยมุ่งเป้าไปที่ประเด็นเรื่องฮิญาบเป็นประเด็นสำคัญ โดยเขาสัญญาว่าหากเขาได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง เขาจะไม่ทำการอันใดทีเป็นการก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของพวกเธอ ซึ่งเป็นจุดยืนที่เรียกคะแนนเสียงจากชาวอิหร่านจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่พอใจการควบคุมที่เข้มงวดของรัฐบาล
และแม้จะมีความกดดันทั้งจากบทลงโทษทางกฎหมายและกลุ่มหัวรุนแรงที่ใกล้ชิดกับผู้นำสูงสุดของอิหร่านอย่าง Ayatollah Ali Khamenei แต่คนหนุ่มสาวจำนวนมากในอิหร่านดูเหมือนจะไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับการบีบบังคับในระบอบการปกครองนี้แต่อย่างใด
ปัจจุบัน ความตึงเครียดเกี่ยวกับการสวมใส่ฮิญาบยิ่งเพิ่มมากขึ้น นับแต่เกิดการประท้วงทั่วประเทศในปี ค.ศ. ๒๐๒๒ ซึ่งมีการเสียชีวิตของ Mahsa Amini หญิงสาวชาวเคิร์ดที่เสียชีวิตหลังจากถูกตำรวจควบคุมตัว เนื่องจากละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งกาย รวมถึงในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวชาวอิหร่านจำนวนมากถอดฮิญาบออกในที่สาธารณะเพื่อท้าทายอำนาจของรัฐบาล
เหตุการณ์ความวุ่นวายต่าง ๆ ได้นำมาสู่การที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่านได้ระงับการบังคับใช้กฎหมาย Hijab and chastity law ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian ได้ให้เหตุผลว่ากฎหมายดังกล่าวมีความคลุมเครือและจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูป และเขาจะกำหนดมาตรการใหม่ที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจระงับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว รัฐบาลเกรงว่าอาจทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อ ๒ ปีก่อน
โดยกฎหมายการแต่งกายฉบับใหม่ จะเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับสตรีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เปิดเผยเส้นผม ปลายแขน หรือท่อนขาส่วนล่าง ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian เห็นว่ากฎหมายการแต่งกายฉบับใหม่น่าจะไม่สามารถหยุดยั้งพฤติกรรมต่อต้านกฎหมายของสตรีอิหร่านได้ และอาจยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นไปอีก ในขณะที่ผู้สนับสนุนกฎหมายดังกล่าวได้กดดันให้ประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian เดินหน้าต่อไป โดยแสดงความไม่พอใจต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติที่มีความลังเลในการบังคับใช้กฎหมาย และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลงนามในกฎหมายเพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่โดยเร็ว
ข่าวประจำวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c0mv83m4z7vo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
ซึ่งปัจจุบันความเป็นไปได้ที่จะเกิดการอภิปรายและประท้วงกฎหมายนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากเหตุการณ์เมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ นักร้องชื่อดังชาวอิหร่านชื่อว่า Parastoo Ahmadi ถูกจับกุมหลังจากสตรีมคอนเสิร์ตออนไลน์บนแพลตฟอร์ม YouTube โดยไม่ได้สวมฮิญาบ ทำให้คอนเสิร์ตดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็ว และการจับกุม Parastoo Ahmadi รวมถึงเพื่อนร่วมวงของเธอ ทำให้เกิดกระแสเชิงลบต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่อย่างกว้างขวาง จากการเผชิญหน้ากับเสียงคัดค้านจากประชาชนอย่างล้นหลาม ทำให้เจ้าหน้าที่ทำการปล่อยตัวพวกเขาในวันถัดมา
ขณะเดียวกัน ช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน นักเขียน และนักข่าวชาวอิหร่านกว่า ๓๐๐ คน ได้ออกมาประณามกฎหมายฮิญาบฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่ากฎหมายนี้ผิดกฎหมายและบังคับใช้ไม่ได้ และเรียกร้องให้ประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian ปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องนโยบายที่เขาเคยหาเสียงไว้ก่อนดำรงตำแหน่ง ในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ซึ่งเขาที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในขณะนั้น ได้วิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติต่อสตรีชาวอิหร่าน โดยมุ่งเป้าไปที่ประเด็นเรื่องฮิญาบเป็นประเด็นสำคัญ โดยเขาสัญญาว่าหากเขาได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง เขาจะไม่ทำการอันใดทีเป็นการก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของพวกเธอ ซึ่งเป็นจุดยืนที่เรียกคะแนนเสียงจากชาวอิหร่านจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่พอใจการควบคุมที่เข้มงวดของรัฐบาล
และแม้จะมีความกดดันทั้งจากบทลงโทษทางกฎหมายและกลุ่มหัวรุนแรงที่ใกล้ชิดกับผู้นำสูงสุดของอิหร่านอย่าง Ayatollah Ali Khamenei แต่คนหนุ่มสาวจำนวนมากในอิหร่านดูเหมือนจะไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับการบีบบังคับในระบอบการปกครองนี้แต่อย่างใด
ปัจจุบัน ความตึงเครียดเกี่ยวกับการสวมใส่ฮิญาบยิ่งเพิ่มมากขึ้น นับแต่เกิดการประท้วงทั่วประเทศในปี ค.ศ. ๒๐๒๒ ซึ่งมีการเสียชีวิตของ Mahsa Amini หญิงสาวชาวเคิร์ดที่เสียชีวิตหลังจากถูกตำรวจควบคุมตัว เนื่องจากละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งกาย รวมถึงในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวชาวอิหร่านจำนวนมากถอดฮิญาบออกในที่สาธารณะเพื่อท้าทายอำนาจของรัฐบาล
เหตุการณ์ความวุ่นวายต่าง ๆ ได้นำมาสู่การที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่านได้ระงับการบังคับใช้กฎหมาย Hijab and chastity law ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian ได้ให้เหตุผลว่ากฎหมายดังกล่าวมีความคลุมเครือและจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูป และเขาจะกำหนดมาตรการใหม่ที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจระงับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว รัฐบาลเกรงว่าอาจทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อ ๒ ปีก่อน
โดยกฎหมายการแต่งกายฉบับใหม่ จะเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับสตรีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เปิดเผยเส้นผม ปลายแขน หรือท่อนขาส่วนล่าง ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian เห็นว่ากฎหมายการแต่งกายฉบับใหม่น่าจะไม่สามารถหยุดยั้งพฤติกรรมต่อต้านกฎหมายของสตรีอิหร่านได้ และอาจยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นไปอีก ในขณะที่ผู้สนับสนุนกฎหมายดังกล่าวได้กดดันให้ประธานาธิบดี Massoud Pezeshkian เดินหน้าต่อไป โดยแสดงความไม่พอใจต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติที่มีความลังเลในการบังคับใช้กฎหมาย และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลงนามในกฎหมายเพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่โดยเร็ว
ข่าวประจำวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c0mv83m4z7vo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
การค้นหาขั้นสูง
© 2017 Office of the Council of State.