ประชาชนกาบองลงมติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญสู่ประชาธิปไตย
ข่าวต่างประเทศ 05 Jan 2025
ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายหลังการรัฐประหารซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเปิดเผยโดยทหารของกาบอง ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ลงมติเห็นชอบให้กับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยผลการเลือกตั้งชั่วคราวระบุว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ ๙๒ ให้การสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ผลการลงมติครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบพลเรือนควบคุมทหาร หรือเป็นหนทางสู่ประชาธิปไตยนั่นเอง แต่นักวิจารณ์บางกลุ่มได้แสดงความเห็นว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อให้นาย Brice Oligui Nguema ซึ่งเป็นผู้นำคณะรัฐประหารยังคงสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้เท่านั้น
โดยคณะกรรมการเพื่อการปฏิวัติและฟื้นฟู (Committee for the Transition and Restoration of Institutions: CTRI) คาดว่ามีผู้มาใช้สิทธิอยู่ที่ร้อยละ ๕๔ และไม่มีรายงานเหตุร้ายแรงใด ๆ ในระหว่างการลงมติตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ซึ่งในการลงมติ ผู้นำกองทัพกล่าวชื่นชมการลงประชามติครั้งนี้ว่าเป็นก้าวสำคัญและชาวกาบองต่างร่วมกันออกมาลงคะแนนเสียงอย่างโปร่งใส ส่วนเจ้าหน้าที่คณะกรรมการเพื่อการปฏิวัติและฟื้นฟูอภิปรายว่า การลงประชามติครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญสู่เจตจำนงตามรัฐธรรมนูญของประเทศกาบอง ประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันอันล้ำค่า
การลงประชามติครั้งนี้เป็นการปูทางไปสู่ “การเลือกตั้ง” ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ปีหน้า ซึ่งเป็นเวลา ๒ ปี หลังจากที่นาย Brice Oligui Nguema เข้ายึดอำนาจและโค่นล้มประธานาธิบดี Ali Bongo Odimba ซึ่งตระกูลของเขาปกครองประเทศกาบองมานานกว่าหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม นาย Brice Oligui Nguema ไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ดังกล่าวกำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้ ๗ ปี และเป็นติดต่อกันได้อีกเพียง ๑ วาระ แทนที่ข้อกำหนดเดิมที่ให้ดำรงตำแหน่งได้วาระละ ๕ ปี และเป็นต่อไปได้โดยไม่จำกัด และให้อำนาจในการสืบทอดตำแหน่งของบุคคลในตระกูลได้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังกำหนดห้ามมิให้สมาชิกในครอบครัวของประธานาธิบดีลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกด้วยและกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องเป็นชาวกาบองและมีคู่สมรสเป็นชาวกาบองอีกด้วย
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะยุติการสืบทอดอำนาจของตระกูล Bongo ซึ่งปกครองประเทศมายาวนานถึง ๕๕ ปี โดย Ali Bongo Odimba ปกครองประเทศมาเป็นเวลา ๑๔ ปี ก่อนที่จะถูกโค่นล้ม ซึ่งเขาเข้ารับตำแหน่งต่อจากบิดาของเขาที่เสียชีวิต ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา ๔๑ ปี
อย่างไรก็ตาม หลายคนเตือนว่ากฎหมายฉบับนี้อาจรวมอำนาจไว้ที่ประธานาธิบดีมากเกินไปและแม้ว่าประเทศกาบองจะมีทรัพยากรน้ำมันและป่าไม้จำนวนมาก แต่ประชากรถึง ๑ ใน ๓ จากจำนวน ๒.๔ ล้านคน ยังตกอยู่ในสภาวะของความยากจน ตามข้อมูลของสหประชาชาติ
ข่าวประจำวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/cpwrjyrxpdjo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
ผลการลงมติครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบพลเรือนควบคุมทหาร หรือเป็นหนทางสู่ประชาธิปไตยนั่นเอง แต่นักวิจารณ์บางกลุ่มได้แสดงความเห็นว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อให้นาย Brice Oligui Nguema ซึ่งเป็นผู้นำคณะรัฐประหารยังคงสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้เท่านั้น
โดยคณะกรรมการเพื่อการปฏิวัติและฟื้นฟู (Committee for the Transition and Restoration of Institutions: CTRI) คาดว่ามีผู้มาใช้สิทธิอยู่ที่ร้อยละ ๕๔ และไม่มีรายงานเหตุร้ายแรงใด ๆ ในระหว่างการลงมติตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ซึ่งในการลงมติ ผู้นำกองทัพกล่าวชื่นชมการลงประชามติครั้งนี้ว่าเป็นก้าวสำคัญและชาวกาบองต่างร่วมกันออกมาลงคะแนนเสียงอย่างโปร่งใส ส่วนเจ้าหน้าที่คณะกรรมการเพื่อการปฏิวัติและฟื้นฟูอภิปรายว่า การลงประชามติครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญสู่เจตจำนงตามรัฐธรรมนูญของประเทศกาบอง ประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันอันล้ำค่า
การลงประชามติครั้งนี้เป็นการปูทางไปสู่ “การเลือกตั้ง” ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ปีหน้า ซึ่งเป็นเวลา ๒ ปี หลังจากที่นาย Brice Oligui Nguema เข้ายึดอำนาจและโค่นล้มประธานาธิบดี Ali Bongo Odimba ซึ่งตระกูลของเขาปกครองประเทศกาบองมานานกว่าหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม นาย Brice Oligui Nguema ไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ดังกล่าวกำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้ ๗ ปี และเป็นติดต่อกันได้อีกเพียง ๑ วาระ แทนที่ข้อกำหนดเดิมที่ให้ดำรงตำแหน่งได้วาระละ ๕ ปี และเป็นต่อไปได้โดยไม่จำกัด และให้อำนาจในการสืบทอดตำแหน่งของบุคคลในตระกูลได้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังกำหนดห้ามมิให้สมาชิกในครอบครัวของประธานาธิบดีลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกด้วยและกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องเป็นชาวกาบองและมีคู่สมรสเป็นชาวกาบองอีกด้วย
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะยุติการสืบทอดอำนาจของตระกูล Bongo ซึ่งปกครองประเทศมายาวนานถึง ๕๕ ปี โดย Ali Bongo Odimba ปกครองประเทศมาเป็นเวลา ๑๔ ปี ก่อนที่จะถูกโค่นล้ม ซึ่งเขาเข้ารับตำแหน่งต่อจากบิดาของเขาที่เสียชีวิต ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลา ๔๑ ปี
อย่างไรก็ตาม หลายคนเตือนว่ากฎหมายฉบับนี้อาจรวมอำนาจไว้ที่ประธานาธิบดีมากเกินไปและแม้ว่าประเทศกาบองจะมีทรัพยากรน้ำมันและป่าไม้จำนวนมาก แต่ประชากรถึง ๑ ใน ๓ จากจำนวน ๒.๔ ล้านคน ยังตกอยู่ในสภาวะของความยากจน ตามข้อมูลของสหประชาชาติ
ข่าวประจำวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/cpwrjyrxpdjo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
การค้นหาขั้นสูง
© 2017 Office of the Council of State.