หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
แนะนำอาเซียน
ข่าวต่างประเทศ
ความตกลง
APSC
AEC
ASCC
ASEAN PLUS
บทความ
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
ประชาคมสังคมและวัฒนธรรรมอาเซียน
บทความวิชาการ
งานวิจัย
กฎหมายน่ารู้
ติดต่อเรา
รัฐแคลิฟอร์เนียอนุมัติรัฐบัญญัติความรับผิดชอบต่อการฟื้นฟูสิ่งทอ
ข่าวต่างประเทศ
18 Dec 2024
กฎหมาย
SB 707 ทำให้
ผู้ผลิตเสื้อผ้าต้องมีความรับผิดชอบต่อการรีไซเคิล
(
Recycle)
การนำกลับมาใช้ใหม่
(
Reuse)
และการเก็บรวบรวมผลิตภัณฑ์ของพวกเข
า
บทสรุปโดย
Supply Chain Dive
นาย
Gavin Newsom ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียลงนาม
รัฐบัญญัติความรับผิดชอบต่อการฟื้นฟูสิ่งทอ
ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๒๔ (
Responsible Textile Recovery Act of 2024
) เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้ ทำให้ผู้ผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอต้องมีความรับผิดชอบต่อการวางแผนในการรวบรวม ซ่อมแซม และรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
โปรแกรมนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแนวทางการทิ้งขยะของครัวเรือนและภาคธุรกิจ ร่างกฎหมายนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.๒๐๒๓ โดยครอบคลุมถึงเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ในสภาพเดิม ตลอดจนรองเท้า ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน กระเป๋าถือ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
จากบทบัญญัติในร่างรัฐบัญญัติดังกล่าว กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างเช่น
American Circular Textiles ได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการเช่นเดียวกันในระดับรัฐบาลกลาง
มุมมองของ
Supply Chain Dive
ร่างกฎหมาย
707 ถือเป็นโครงการความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) สิ่งทอที่ถูกขยายขอบเขตให้กว้างขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยรัฐแคลิฟอร์เนีย โครงการที่มีลักษณะคล้ายกันสำหรับการกำจัด การจัดการ และการรีไซเคิลขยะมูลฝอยที่เป็นของแข็ง ตลอดจนโปรแกรมการดูแลสิ่งของในครัวเรือนต่าง ๆ เช่น พรม ที่นอน ยารักษาโรค และขยะอันตราย
ปัจจุบัน ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว กลุ่มรีไซเคิลและขยะ
(
Recycling and waste groups
)
คาดหวังว่าจะเห็นสิ่งทอต่างๆ น้อยลงในสถานที่ของพวกเขา ตามการรายงานของ
Fashion Dive
ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือของ
Waste Dive
ร่างกฎหมายมีการเรียกร้องอย่างเจาะจงต่อการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอเพื่อจัดตั้งและเข้าร่วมในองค์กรความรับผิดชอบของผู้ผลิต
(
Producer responsibility organization
:
PRO
)
โดย
PRO
ต้องได้รับการอนุมัติจาก
CalRecylce
ตามที่กำหนดไว้ในร่าง
กฎหมาย โดยรวมถึงการทำแผนการดำเนินงานที่สมบูรณ์สำหรับการรวบรวม การขนส่ง การซ่อมแซม การจำแนกประเภทและการรีไซเคิล ตลอดจนการจัดการที่เหมาะสมต่อสิ่งทอภายในรัฐ ซึ่งกำหนดให้
CalRecycle
ต้องอนุมัติ
PRO
ภายใน 1 มีนาคม ค.ศ. ๒๐๒๖ และรับรองกฎระเบียบ
ในการดำเนินการดังกล่าวซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ ๑ กรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๒๘ โดย
PRO
นั้นต้องยื่นแผนสำหรับการรวบรวม การซ่อมแซม และการรีไซเคิลสิ่งทอภายใน ๑ กรกฎาคม ค.ศ. ๒๐๓๐
สำหรับการตอบสนองต่อร่างดังกล่าว
สมาคมเครื่องแต่งกายและรองเท้าอเมริกัน
(American Apparel & Footwear Association
:
AAFA)
กำลังเพิ่มความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับ
PROs ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตามที่นาง Chelsea Murtha ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายความยั่งยืนของ AAFA กล่าว โดยเธอกล่าวว่า องค์กรนั้นกำลังทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ และสมาชิกของ AAFA เพื่อให้ดำรงอยู่ใน "ตำแหน่งที่ดีที่สุดต่อการช่วยสนับสนุน" กับการจัดตั้ง PROs
ร่างรัฐบัญญัติดังกล่าว ยังคงเรียกร้องให้แบรนด์แฟชั่นต่างๆเน้นโปรแกรมการนำกลับมาใช้ใหม่และการซ่อมแซมสำหรับการรีเซลล์แบรนด์ (
branded resale) อีกด้วย โดยหลากหลายแบรนด์ได้ดำเนินการหรือขยายโปรแกรมในปีนี้ เช่น Fjällräven The North Face และ Rent the Runway
นาย
Josh Newman สมาชิกวุฒิสภาของรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นผู้ร่างกฎหมายนี้ กล่าวว่า ร่างรัฐบัญญัติ SB 707 มีเป้าหมายต่อการแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจาก Fast fashion และการสนับสนุนวัฒนธรรมการทิ้ง โดยแถลงการณ์จากสำนักงานของเขานั้น เขาชี้ให้เห็นว่า Fast fashion เป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซคาร์บอนของอุตสาหกรรมแฟชั่น
ในปี ค.ศ. ๒๐๒๑ สิ่งทอประมาณ ๑.๒ ล้านตันได้ถูกทิ้งภายในรัฐแคลิฟอร์เนีย แม้ว่าจะมีถึงร้อยละ ๙๕ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ ตามข้อมูลจาก
Newman
American Circular Textiles และ Circular Services Group ซึ่งมีส่วนช่วยต่อการร่างกฎหมายนี้ ได้เรียกร้องให้แบรนด์แฟชั่นร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนนโยบายที่ใช้ได้ผลจริงแก่ภาคธุรกิจและสิ่งแวดล้อม
นาง
Rachel Kibbe ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของกลุ่มกล่าวว่า SB 707 สามารถช่วยส่งเสริมความพยายามต่อการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับโลก เนื่องจากขนาดของเศรษฐกิจของรัฐแคลิฟอร์เนีย
อย่างไรก็ดี เธอได้เรียกร้องให้มีการกำหนดกฎระเบียบในระดับโลก โดยกล่าวว่า หากไม่มีการกระทำเช่นนั้น ประเทศจะมีความเสี่ยงที่จะสร้างกฎระเบียบที่แปลกแยกกันออกไปและไม่สอดคล้องกันทั่วทั้งประเทศ"
"เรากำลังเผชิญหน้าต่อศักยภาพของทีมงานด้านความยั่งยืนที่จะต้องหันมามุ่งเน้นต่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบมากกว่าการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความก้าวหน้าอย่างแท้จริง"
Kibbe กล่าว
"การมีแนวทางที่เป็นเอกภาพจากรัฐบาลกลางจะช่วยทำให้ระบบนั้นมีความเป็นระเบียบมากขึ้น ป้องกันความพยายามที่ไม่อาจเชื่อมโยงกัน และทำให้ภาคธุรกิจสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของแต่ละรัฐโดยระหว่างกันได้อย่างดียิ่งขึ้น"
ข่าวประจำวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๗
แปลและเรียบเรียงจาก
https://www.supplychaindive.com/news/california-responsible-textile-recovery-act-passed/729095/
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
© 2017 Office of the Council of State.