BANNER

อังกฤษเตรียมออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ “การวางยา” เป็นความผิดโดยเฉพาะขึ้นใหม่ตามกฎหมายอาญา


 ข่าวต่างประเทศ      31 Aug 2024

  


                    รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้การวางยาเป็นความผิดโดยเฉพาะขึ้นใหม่ตามกฎหมายอาญา เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ และคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะรวมอยู่ในร่างกฎหมายราว ๓๕ ฉบับที่ประกาศในพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในวันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งในที่นี้ “การวางยา (spiking)” หมายถึงการใส่ยาหรือแอลกอฮอล์ลงในเครื่องดื่มของบุคคลอื่น หรือนำเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้น
                    แม้การวางยาจะถูกบัญญัติไว้เป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายอื่นอยู่แล้ว รวมถึงพระราชบัญญัติความผิดต่อบุคคล ค.ศ. ๑๘๖๑ (Offences against the Person Act) แต่ปฏิญญาของพรรคแรงงานประกอบกับปฏิญญาของพรรคอนุรักษ์นิยมระบุว่า การกำหนดให้การวางยาเป็นความผิดเฉพาะขึ้นใหม่จะช่วยให้ตำรวจสามารถรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
                    จากข้อมูลของตำรวจในอังกฤษและเวลส์ได้รับรายงานการวางยาถึง ๖,๗๓๒ ครั้ง รวมทั้งการวางยาด้วยการใช้เข็มฉีดจำนวน ๙๕๗ ครั้ง ในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗
                    โดยตำรวจนครบาลอังกฤษกล่าวว่า รายงานการวางยาประเภทเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓ ในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ หลังจากที่เพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และตำรวจได้รับแจ้งความเรื่องการวางยา ๑,๓๘๓ ครั้งในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ และการกระทำผิดส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในสถานที่สาธารณะ โดยเฉพาะบาร์และสถานบันเทิง
                    อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าไม่ได้รับรายงานเรื่องการวางยามากเท่ากับที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง และคดีเกี่ยวกับการวางยามักตรวจสอบได้ยาก เนื่องจากยาเสพติดสามารถแพร่กระจายในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว
                    ทั้งนี้ ร่างกฎหมายการวางยาจะบังคับใช้ในอังกฤษและเวลส์ ส่วนมาตรการเพิ่มเติมอื่นใดในสกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือจะมอบหมายให้นักการเมืองที่เกี่ยวข้องจัดการต่อไป

ข่าวประจำวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c2x0ev00rzmo
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย


 

© 2016 Office of the Council of State.