BANNER

รัฐบาลเวลส์ตั้งความหวังและพร้อมให้การสนับสนุนต่อร่างกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่ฉบับใหม่ของอังกฤษ ที่จะมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น


 ข่าวต่างประเทศ      11 Sep 2024

  


                    รัฐบาลเวลส์มีความคาดหวังในการที่รัฐบาลอังกฤษจะนำร่างกฎหมายควบคุมยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้าฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดยิ่งขึ้นกลับมาพิจารณาในรัฐสภาอีกครั้ง ภายหลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวเคยถูกปัดตกไปในรัฐสภาหลังจากที่มีการเลือกตั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลเวลส์ได้ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว ที่เสนอโดยพรรคอนุรักษ์นิยมชุดก่อน ซึ่งจะห้ามการขายยาสูบให้กับบุคคลใด ๆ ที่เกิดตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นต้นไปและผู้ที่เกิดหลังจากนั้น
                    สำหรับในประเทศเวลส์มีการห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่กลางแจ้งบางแห่ง รวมถึงบริเวณโรงพยาบาล และสนามเด็กเล่นสาธารณะ ซึ่งร่างกฎหมายที่มีสาระสำคัญคล้ายกันกำลังได้รับการพิจารณาอยู่ในอังกฤษ
                    ปัจจุบัน รัฐมนตรีพรรคแรงงานได้ให้คำมั่นที่จะนำร่างกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่ที่เสนอโดยพรรคอนุรักษ์นิยมกลับมาพิจารณา แต่นายกรัฐมนตรี Sir Keir Starmer กล่าวว่ารัฐมนตรีของเขาจะทำการปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวให้เนื้อหามีความเข้มงวดยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะการห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่กลางแจ้ง โดยจากรายงานระบุว่าอาจมีการห้ามสูบบุหรี่ในภัตตาคารหรือร้านกินดื่มที่มีลักษณะตั้งอยู่กลางแจ้ง เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่
                    อย่างไรก็ตาม พรรคอนุรักษ์นิยมได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอดังกล่าวของรัฐมนตรีพรรคแรงงานว่าเป็นการควบคุมที่เข้มงวดมากเกินไป ในขณะที่ผู้ประกอบการบางรายได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการห้ามสูบบุหรี่ ที่อาจเกิดขึ้นกับภาคส่วนธุรกิจที่เปิดให้บริการกลางแจ้ง
                    ขณะที่โฆษกของรัฐบาลเวลส์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการเพื่อจำกัดการสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะกลางแจ้งบางแห่งในเวลส์มาโดยตลอด และได้ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายควบคุมยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้าของรัฐบาลอังกฤษฉบับเดิมที่เคยเสนอต่อรัฐสภาเมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๖๗ และยิ่งมีความคาดหวังมากขึ้น
ต่อร่างกฎหมายควบคุมยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้าที่มีความเข้มงวดยิ่งกว่าเดิม ที่จะถูกนำมาพิจารณาในรัฐสภาอังกฤษอีกครั้ง


ข่าวประจำวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๗
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.bbc.com/news/articles/c5y8gdp9y56o
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย


 

© 2016 Office of the Council of State.