เนปาลออกข้อกำหนดสำหรับผู้ประสงค์จะพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ทุกคนจะต้องเช่าชิปติดตามตัว
ข่าวต่างประเทศ
01 Apr 2024
ก่อนฤดูกาลแห่งการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ที่จะมาถึงในปีนี้ เนปาลได้ประกาศข้อกำหนดใหม่ที่กำหนดให้นักปีนเขาทุกคนต้องเช่าและใช้ชิปติดตามการเดินทาง โดย Rakesh Gurung ผู้อำนวยการด้านการท่องเที่ยวของเนปาลกล่าวกับ CNN ว่า โดยปกติบริษัทที่มีชื่อเสียงต่างก็ใช้สิ่งเหล่านี้ในการปีนเขาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้การใช้ชิปติดตามถือเป็นข้อกำหนดสำหรับนักปีนเขาทุกคน เนื่องจากชิปติดตามจะช่วยลดระยะเวลาในการค้นหานักปีนเขาและช่วยเหลือได้ทันท่วงทีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
โดยนักปีนเขาจะต้องจ่ายเงินค่าชิปติดตาม ซึ่งมีราคาประมาณ ๑๐-๑๕ เหรียญสหรัฐต่อชิ้น และเย็บติดกับเสื้อแจ็คเก็ต เมื่อนักปีนเขากลับมา ชิปนั้นจะถูกถอดออกคืนให้กับรัฐบาลและเก็บไว้ให้นักปีนเขารายต่อไป ซึ่งตัวชิปติดตามจะช่วยระบุตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS) เพื่อแบ่งปันข้อมูลกับดาวเทียม
ผู้ที่ต้องการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่มีความสูง ๘,๘๔๙ เมตร (๒๙,๐๓๒ ฟุต) ต้องเดินทางผ่านทางประเทศเนปาล โดยจ่ายเงิน ๑๑,๐๐๐ เหรียญต่อคนสำหรับค่าใบอนุญาตปีนเขาเพียงอย่างเดียว และเมื่อคำนวณรวมกับราคาอุปกรณ์ อาหาร ออกซิเจนเสริม ไกด์ และอื่น ๆ แล้ว พบว่า มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ๓๕,๐๐๐ เหรียญสหรัฐในการปีนเขา นั่นทำให้ประเทศเนปาลสร้างรายได้มหาศาลจากการปีนเขาของนักท่องเที่ยว
การพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์อาจใช้เวลานานถึง ๒ เดือน โดยสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับการปีนเขาโดยปกติคือกลางเดือนพฤษภาคม โดยจากข้อมูลเมื่อปีที่แล้ว เนปาลได้ออกใบอนุญาตปีนเขาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง ๔๗๘ ใบ และมีการยืนยันแล้วว่านักปีนเขา ๑๒ รายเสียชีวิตบนภูเขาลูกนี้ ขณะที่อีก ๕ รายยังคงสูญหายอย่างเป็นทางการ
ข่าวประจำวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗
แปลและเรียบเรียงจาก https://edition.cnn.com/travel/nepal-mount-everest-climbers-tracking-chip/index.html
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย