BANNER

คู่สมรสจำนวน ๖ คู่ ในญี่ปุ่นวางแผนนำคดีขึ้นสู่ศาล โดยมีประเด็นว่าบทบัญญัติทางกฎหมายที่กำหนดให้คู่สมรสต้องใช้ชื่อสกุลเดียวกันขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร


 ข่าวต่างประเทศ      31 Mar 2024

  


กลุ่มคนที่เป็นคู่สมรสกันจำนวน ๑๒ คน ในญี่ปุ่นวางแผนที่จะยื่นฟ้องคดีต่อศาลในเดือนมีนาคม ค.ศ. ๒๐๒๔ โดยมีประเด็นว่าบทบัญญัติทางกฎหมายที่กำหนดให้คู่สมรสต้องใช้ชื่อสกุลเดียวกันขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร

กลุ่มคู่สมรสระบุว่า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและทะเบียนครอบครัวที่ไม่อนุญาตให้คู่สมรสแยกใช้ชื่อสกุลถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญที่บัญญัติรับรองเสรีภาพในการแต่งงาน  ดังนั้น จึงไม่ควรให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้

กลุ่มคนที่เป็นคู่สมรสกันทั้ง ๑๒ คน ที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลคดีโดยเป็นโจทก์และทนายความของพวกเขากล่าวว่า การสูญเสียการใช้ชื่อสกุลที่มีมาแต่กำเนิดทำให้ยากต่อการรักษาเครดิต ความน่าเชื่อถือ และการประเมินคุณค่าในสังคม พวกเขากล่าวว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนไป

ทนายความของพวกเขากล่าวว่าการเรียกร้องให้ใช้นามสกุลแยกกันกำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น แม้ว่าศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาว่าบทบัญญัติดังกล่าวสอดคล้องต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งในคำพิพากษาสองฉบับก่อนหน้านี้ที่มีการฟ้องร้องที่คล้ายคลึงกันในอดีต ในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ และ ๒๐๒๑ ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน ๑๕ คนในศาลฎีกา ได้ยึดถือตามบทบัญญัติดังกล่าวโดยถือว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามเสียงข้างมาก แต่ผู้พิพากษาจำนวน ๕ คน ในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ และ ๔ คน ในปี ค.ศ. ๒๐๒๑ ที่เป็นเสียงข้างน้อยที่เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ

กลุ่มคู่สมรสข้างต้นวางแผนที่จะยื่นฟ้องโดยดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อศาลแขวงในกรุงโตเกียวและซัปโปโรในวันที่ ๘ มีนาคม ค.ศ. ๒๐๒๔ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐ

ทางด้านทนายความโจทก์กำลังเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลสูง โดยให้ข้อสังเกตว่าองค์กรทางธุรกิจขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นและสภาท้องถิ่นหลายแห่งก็สนับสนุนการให้เลือกใช้ชื่อสกุลที่แยกกัน

ข่าวประจำวันที่  ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เรียบเรียงจาก  https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20240222_11/?fbclid=IwAR2G2WFrHzUvYamp8139Ie0HbdRlBXSaOI4qlT6qLbbbKcm4SJZ975wpUHk

*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
 
 

© 2017 Office of the Council of State.