สหรัฐประกาศห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐของเจ้าหน้าที่ยูกันดาเพื่อตอบโต้การออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ของประเทศยูกันดา
ข่าวต่างประเทศ 30 Jun 2023
สหรัฐอเมริกาได้ประกาศบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ยูกันดา หลังจากที่ยูกันดาได้ออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ที่ลงนามโดยประธานาธิบดี Yoweri Museveni เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ในแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่คนใดจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดและไม่ปรากฏรายละเอียดเพิ่มเติม
กฎหมายต่อต้าน LGBTQ ของยูกันดาถูกประณามว่าเป็นหนึ่งในกฎหมายที่รุนแรงที่สุดในโลก เนื่องจากบทบัญญัติตามกฎหมายระบุถึงโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีพฤติกรรมรักร่วมเพศซึ่งถือเป็นความผิด รวมถึงการแพร่เชื้อ HIV ผ่านการร่วมเพศของคนเพศเดียวกัน นอกจากนี้ยังกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิตสำหรับการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกันและมีโทษจำคุก ๒๐ ปีในข้อหาส่งเสริมการรักร่วมเพศ ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนี้ยังกำหนดค่าปรับสำหรับสื่อและองค์กรเอกชนที่ส่งเสริมกิจกรรมสำหรับ LGBTQ อีกด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ Matthew Miller โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวในแถลงการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีต่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและกล่าวต่อไปว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ให้คำแนะนำในการเดินทางแก่พลเมืองของสหรัฐอเมริกา เพื่อเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่บุคคลที่เป็น LGBTQ หรือผู้ที่ถูกมองว่าเป็น LGBTQ อาจถูกดำเนินคดีและจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ของยูกันดา
ทั้งนี้ โดยส่วนมากการรักร่วมเพศมักเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศแถบแอฟริกาตะวันออกที่อนุรักษนิยมและเคร่งศาสนา ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า กลุ่มรักร่วมเพศที่อาศัยอยู่ใบบริเวณพื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญกับการเหยียดหยามและการคุกคามจากกองกำลังความมั่นคง
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐอเมริกาเรียกความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลยูกันดาว่า “เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนสากลอย่างน่าเศร้า” และขู่ตัดความช่วยเหลือและคว่ำบาตรอื่น ๆ และ Antony Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกากล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่ารัฐบาลจะพิจารณาในการจำกัดวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ยูกันดา
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศที่ตัดความช่วยเหลือแก่ยูกันดาในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เนื่องจากการออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ฉบับก่อนหน้า
นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Josep Borrell หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและพันธกรณีของยูกันดาภายใต้กฎบัตรแอฟริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อผูกพันเกี่ยวกับการไม่เลือกปฏิบัติและการห้ามกระทำการที่โหดร้ายทารุณอย่างไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ด้านนาย Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติก็แสดงความเป็นห่วงถึงการออกกฎหมายดังกล่าวของยูกันดา
ข่าวประจำวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.aljazeera.com/news/2023/6/16/us-restricts-ugandan-officials-travel-in-wake-of-anti-lgbtq-law
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/198904
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
กฎหมายต่อต้าน LGBTQ ของยูกันดาถูกประณามว่าเป็นหนึ่งในกฎหมายที่รุนแรงที่สุดในโลก เนื่องจากบทบัญญัติตามกฎหมายระบุถึงโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีพฤติกรรมรักร่วมเพศซึ่งถือเป็นความผิด รวมถึงการแพร่เชื้อ HIV ผ่านการร่วมเพศของคนเพศเดียวกัน นอกจากนี้ยังกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิตสำหรับการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกันและมีโทษจำคุก ๒๐ ปีในข้อหาส่งเสริมการรักร่วมเพศ ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายนี้ยังกำหนดค่าปรับสำหรับสื่อและองค์กรเอกชนที่ส่งเสริมกิจกรรมสำหรับ LGBTQ อีกด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ Matthew Miller โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวในแถลงการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีต่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและกล่าวต่อไปว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ให้คำแนะนำในการเดินทางแก่พลเมืองของสหรัฐอเมริกา เพื่อเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่บุคคลที่เป็น LGBTQ หรือผู้ที่ถูกมองว่าเป็น LGBTQ อาจถูกดำเนินคดีและจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ของยูกันดา
ทั้งนี้ โดยส่วนมากการรักร่วมเพศมักเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศแถบแอฟริกาตะวันออกที่อนุรักษนิยมและเคร่งศาสนา ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า กลุ่มรักร่วมเพศที่อาศัยอยู่ใบบริเวณพื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญกับการเหยียดหยามและการคุกคามจากกองกำลังความมั่นคง
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐอเมริกาเรียกความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลยูกันดาว่า “เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนสากลอย่างน่าเศร้า” และขู่ตัดความช่วยเหลือและคว่ำบาตรอื่น ๆ และ Antony Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกากล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่ารัฐบาลจะพิจารณาในการจำกัดวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ยูกันดา
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ประเทศที่ตัดความช่วยเหลือแก่ยูกันดาในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เนื่องจากการออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ฉบับก่อนหน้า
นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Josep Borrell หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและพันธกรณีของยูกันดาภายใต้กฎบัตรแอฟริกาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อผูกพันเกี่ยวกับการไม่เลือกปฏิบัติและการห้ามกระทำการที่โหดร้ายทารุณอย่างไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ด้านนาย Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติก็แสดงความเป็นห่วงถึงการออกกฎหมายดังกล่าวของยูกันดา
ข่าวประจำวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.aljazeera.com/news/2023/6/16/us-restricts-ugandan-officials-travel-in-wake-of-anti-lgbtq-law
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/198904
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
การค้นหาขั้นสูง
© 2017 Office of the Council of State.