ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีมติเห็นชอบการห้ามสักร่างกายโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศเดียวที่ไม่อนุญาตให้มีการสักร่างกายโดยช่างสัก ซึ่งมิใช่การดำเนินการทางการแพทย์
ผู้ประกอบอาชีพช่างสักที่ไม่เห็นด้วยกับคำชี้ขาดของศาลเห็นว่าเป็นคำตัดสินล้าหลังและขาดซึ่งความเข้าใจในวัฒนธรรม กฎหมายห้ามสักร่างกายโดยช่างสักได้ประกาศใช้มาอย่างยาวนาน โดยที่ช่างสักในประเทศกว่า ๕๐,๐๐๐ คนต้องเสี่ยงกับการถูกจับกุมและดำเนินคดีในการประกอบอาชีพดังกล่าว
การละเมิดกฎหมายดังกล่าวมีโทษปรับสูงสุด ๕๐ ล้านวอนหรือราว ๑๓๗,๐๐๐๐ บาท และโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งโดยทั่วไปมักมีการลงโทษจำคุก ๒ ปี
สหภาพช่างสักมีความเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกฎหมายตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๗ โดยเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการประกอบอาชีพ ในปี ค.ศ. ๒๐๒๒ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ๕ ต่อ ๔ เสียง วินิจฉัยว่ากฎหมายดังกล่าวไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าการสักร่างกายอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงและปัญหาเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งความรู้และทักษะทางการแพทย์เกี่ยวกับการสักที่มีอย่างจำกัดของช่างสักไม่สามารถรับรองมาตรฐานการรักษาได้เทียบเท่ากับผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาก่อนหรือหลังการสัก
ด้านสหภาพช่างสัก ๖๕๐ คนได้ออกแถลงการณ์ประณามคำชี้ขาดของศาล โดยเห็นว่าเป็นคำชี้ขาดที่ล้าหลังและไร้ค่า
Kim Do-yoon ประธานสหภาพช่างสักกล่าวถึงคำชี้ขาดศาลรัฐธรรมนูญโดยเปรียบ “ศาลรัฐธรรมนูญยังคงเดินสี่ขา ในขณะที่ประชาชนทุกคนเดินตัวตรง” โดยศาลรัฐธรรมนูญยังคงวินิจฉัยตามแนวบรรทัดฐานคำพิพากษาศาลฎีกาที่วินิจฉัยไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๙๒ ซึ่งเป็นการเลียนแบบคำพิพากษาของศาลญี่ปุ่นระบุว่าการสักร่างกายเป็นกิจกรรมทางการแพทย์ แม้ต่อมาศาลญี่ปุ่นจะวินิจฉัยกลับคำพิพากษาเดิมแล้วก็ตาม
Kim Sho-yun รองประธานสหภาพช่างสักวิพากษ์วิจารณ์คำชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่ากฎหมายการห้ามสักโดยช่างสักเป็นกฎหมายที่ไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากตลาดการสักที่เติบโตขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รูปแบบการสักของเกาหลีได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีลวดลายที่สวยงาม มีความละเอียดอ่อน และการใช้สีสันที่ดึงดูด บุคคลมีชื่อเสียงในประเทศ รวมถึงศิลปินเกาหลีใต้มักจะมีการปกปิดรอยสักเมื่อปรากฎตัวทางโทรทัศน์ แต่จะมีการเปิดเผยรอยสักนแพลตฟอร์มออนไลน์
ผลการสำรวจความคิดเห็นชี้ให้เห็นว่าประชาชนเกาหลีใต้สนับสนุนให้การสักร่างกายเป็นการกระทำที่ถูกกฎหมาย ขณะที่สมาคมการแพทย์ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยเห็นว่าการใช้เข็มกระทำต่อร่างกายอาจเป็นการทำร้ายร่างกายได้ ขณะที่นาย Yoon Suk-yeol ประธานาธิบดีเกาหลีใต้สนับสนุนให้การสักเพื่อความงาม เช่น การสักเป็นแบบกึ่งถาวร การสักคิ้ว ขอบตา และไรผม เป็นสิ่งที่สามารถทำได้
ข่าวประจำวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕
เรียบเรียงจาก https://www.reuters.com/world/asia-pacific/skorean-court-upholds-tattooing-ban-2022-03-31/