BANNER

รัฐมนตรีเสนอผลักดันนโยบายที่เข้มแข็งเพื่อรองรับวิกฤตการณ์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในอนาคต


 ข่าวต่างประเทศ      23 May 2022

  


          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เรียกร้องให้รัฐมนตรีการค้าของประเทศสมาชิกเอเปค ๒๑ ประเทศเร่งดำเนินการเพื่อรองรับวิกฤตการณ์ในอนาคตและบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจและครอบคลุมยิ่งขึ้น
          รองนายรัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุมรัฐมนตรีการค้าเมื่อวันที่ ๒๑ และ ๒๒ พฤษภาคม ที่กรุงเทพฯ ในรายละเอียดมุมมองทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับนโยบายการค้าในอนาคต โดยเฉพาะการฟื้นฟูและเสริมสร้างการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและเชื่อมโยงผู้คน ธุรกิจ การค้า และการลงทุน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์ของการประชุมครั้งนี้จะครอบคลุมถึงจุดยืนด้านนโยบายเกี่ยวกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาคภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด – ๑๙ ซึ่งควรเป็นนโยบายเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับวิกฤตการณ์ในอนาคต
          รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำธีมการประชุมของประเทศไทยคือการเปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุล และและเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกพัฒนาการทำงานขอเอเปคด้านการบูรณาการทางเศรษฐกิจให้ลึกยิ่งขึ้นและขับเคลื่อนความก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific - FTAAP) รวมถึงการนำบทเรียนที่ได้จากการระบาดของไวรัสโควิด - ๑๙ มาช่วยเหลือทุกภาคส่วนของสังคม รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก
          นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำความสำคัญของการเดินทางข้ามพรมแดนที่ปลอดภัยและสะดวก รวมถึงส่งเสริมการเชื่อมโยงทางดิจิทัลและห่วงโซ่อุปทาน โดยคำนึงถึงการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารและการเกษตรเพื่อรับรองความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในภูมิภาค โดยรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ด้วยเจตนารมณ์นี้ ประเทศไทยได้นำแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) หรือ บีซีจี เป็นนโยบายหลักในการขับเคลื่อนธีมการประชุมทั้งสามประการในช่วงที่ประเทศไทยเป็นประธานการประชุมเอเปค โดยเฉพาะสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยภายในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับหัวใจของประเทศไทยและเราต้องการที่จะทำให้สิ่งนี้อยู่ในลำดับความสำคัญในปีนี้”
          การประชุมรัฐมนตรีการค้าเป็นการวางรากฐานไปสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาด้านพัฒนาในอนาคต การชะลอตัวของการเติบโต การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และราคาเชื้อเพลิงและอาหารที่สูงขึ้น  นอกจากนี้ รัฐมนตรีได้รับฟังการรายงานแนวโน้มการค้าโลกฟังจากอธิบดีองค์การการค้าโลก
           ประเด็นเพิ่มเติมที่ได้รับความสนใจจากรัฐมนตรีการค้าคือการผลักดันวิสัยทัศน์ปุตราจายาของเอเปค ค.ศ. 2040 และแผนปฏิบัติการเอาทีอารอ (Aotearoa Plan) ซึ่งเป็นแนวทางการสร้างชุมชนเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่น และสงบสุข โดยรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องส่งเสริมการค้าดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้มากยิ่งขึ้น เช่น การส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สินค้า บริการ ครอบคลุมถึงระบบการขนส่ง การเคลื่อนย้ายผู้คน ความสอดคล้องกันด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะการเพิ่มการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยในห่วงโซ่คุณค่าของโลก” การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในประเทศสมาชิกเอเปก รองนายรัฐมนตรึจึงได้กล่าวสรุป โดยคาดหวังให้เศรษฐกิจของเอเปคมีความพร้อมมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ในอนาคต และบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีและครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต และได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดใช้การประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการส่งเสริมการทำงานของเอเปคไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม


ข่าวประจำวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เรียบเรียงจาก https://www.apec.org/press/news-releases/2022/minister-apec-should-push-for-strong-policies-to-futureproof-the-region-from-crises
 

© 2017 Office of the Council of State.