BANNER

สหภาพยุโรปส่งเสริมการใช้ป่าพรุอย่างยั่งยืนและการบรรเทาปัญหาหมอกควันในอาเซียน


 ข่าวต่างประเทศ      25 Nov 2019

  


สหภาพยุโรปสนับสนุนอาเซียนสำหรับความพยายามในแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนและปัญหาไฟไหม้ในพื้นที่ป่าพรุ โดยได้สนับสนุนเงินจำนวน ๒๔ ล้านยูโร สำหรับการดำเนินงานโครงการการใช้ป่าพรุที่ยั่งยืนและการบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (The Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN (SUPA)) โดยโครงการดังกล่าวได้รับเงินจำนวน ๒๐ ล้านยูโรจากสหภาพยุโรป และ ๔ ล้านยูโรจากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ข้อริเริ่มการสนับสนุนครั้งใหม่นี้จะช่วยส่งเสริมการปฏิบัติตามเป้าหมายการจัดการพื้นที่ป่าพรุในอาเซียนและยกระดับความร่วมมือด้านการจัดการพื้นที่ป่าของอาเซียนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การบริหารจัดการความเสี่ยงจากไฟป่า การบรรเทาปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดไฟป่าในภูมิภาคในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีบริเวณเผาไหม้กว่า ๘๕๗,๗๕๕ เฮกตาร์ เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่มีการเผาไหม้จำนวน ๕๒๙,๒๖๖  เฮกตาร์ และในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ มีบริเวณเผาไหม้ถึง ๒.๖ ล้านเฮกตาร์ และการดำเนินโครงการจะเป็นส่วนช่วยส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม
ระดับโลกและการดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น


การสนับสนุนการจัดการพื้นที่ป่าพรุอย่างยั่งยืนในอาเซียนของสหภาพยุโรปได้ดำเนินการโดยมีสองกลไกความร่วมมือหลัก ได้แก่ องค์กรของรัฐ ดำเนินการโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit (GIZ)) และองค์กรที่ไม่ใช่องค์กรของรัฐ ดำเนินการโดยสถาบันทรัพยากรโลกอินโดนีเซีย (World Resources Institute Indonesia) ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์และวิจัยป่าฝนเขตร้อนมาเลเซีย (Tropical Rainforest Conservation & Research Centre Malaysia) และองค์กร IDH (Dutch Sustainable Trade Initiative) ซึ่งทั้งสองส่วนจะร่วมกันสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขสาเหตุการเกิดไฟป่าในอาเซียน

นาย Igor Driesmans เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำอาเซียน หวังว่าโครงการที่เกิดขึ้นใหม่นี้จะช่วยให้อาเซียนสามารถฟื้นฟูสภาพและบริหารจัดการพื้นที่ป่าพรุในเชิงรุกได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น แม้ว่าอาเซียนจะประสบความสำเร็จบรรลุข้อตกลงหมอกควันข้ามแดนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ แต่การบรรเทาปัญหาไฟป่าและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะต้องอาศัยความพยายามในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

นาย Dato Lim Jock Hoi เลขาธิการอาเซียน กล่าวเน้นย้ำถึงความร่วมมือของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและประเด็นข้ามพรมแดนที่ยังคงเข้มข้นและมีความสำคัญภายใต้แนวคิดหลักของการเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ คือ “การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ความร่วมมือและกลไกต่าง ๆ ของอาเซียนยังคงเป็นส่วนช่วยเสริมสร้างประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านแก่ประเทศสมาชิก และส่งเสริมการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ

นอกจากนี้ Dato Lim ยังกล่าวถึงการหารือเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างอาเซียน – สหภาพยุโรปด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการพื้นที่คุ้มครองในอาเซียน โครงการการใช้ป่าพรุอย่างยั่งยืนและการบรรเทาหมอกควันในอาเซียนที่จัดขึ้นตามกรอบความร่วมมืออาเซียน – สหภาพยุโรป ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นกลไกหลักด้านข้อมูลความรู้เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกอาเซียนและเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างความสามารถ
และการประสานงานระดับภูมิภาคในการจัดการป่าไม้และพื้นที่ป่าพรุอย่างยั่งยืน


พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูต Driesmans ได้กล่าวว่าโครงการการใช้ป่าพรุอย่างยั่งยืนและการบรรเทาหมอกควันในอาเซียนจะเป็นก้าวสำคัญของสหภาพยุโรปและอาเซียน เนื่องจากเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาคครั้งแรกภายใต้โครงการความร่วมมืออาเซียน - สหภาพยุโรป (EU-ASEAN Multi-Annual Indicative Programme) ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งสองภูมิภาคมุ่งมั่นที่จะจัดการสาเหตุของการเกิดไฟป่าและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  อีกทั้งยังเน้นย้ำว่าโครงการดังกล่าวแสดงถึงความมุ่งมั่นของสหภาพยุโรปในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในพื้นที่ป่าพรุและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นลักษณะเฉพาะของระบบนิเวศในป่าพรุ

ข่าว ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒   สำนักเลขาธิการอาเซียน
https://asean.org/eu-support-sustainable-use-peatland-haze-mitigation-asean/
 

© 2017 Office of the Council of State.