ภาพจาก eng.mil.ru
รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (the Republic of the Philippines) และสหพันธรัฐรัสเซีย (the Russian Federation) ได้ลงนามในสองความตกลงเพื่อการป้องกันประเทศ อันเป็นผลพวงด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคภายใต้กรอบของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนครั้งที่ ๔ (the 4th Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) Defense Ministers Meeting : ADMM-Plus) เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐ ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมอาเซียน (the ASEAN Convention Center) เมืองคลาร์ก จังหวัดปามปังกา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
โดยตัวแทนรัฐบาลของทั้งสองประเทศ กล่าวคือ นาย Delfin N. Lorenzana เลขานุการกระทรวงกลาโหมแห่งฟิลิปปินส์ และนาย Sergey Shoygu รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแห่งรัสเซีย ได้ลงนามในความตกลงเพื่อความร่วมมือทางการทหารและทางเทคนิค (an Agreement for Military-Technical Cooperation) ระหว่างสองประเทศ โดยในเอกสารได้ระบุถึงข้อกำหนดว่าด้วยความร่วมมือทางการทหารและทางเทคนิคในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยและการส่งเสริมด้านการผลิต ตลอดทั้งการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและการฝึกอบรมเพื่อเข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นการตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ ตัวแทนรัฐบาลทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในสัญญาเพื่อจัดให้มีข้อบังคับด้านการป้องกันประเทศของฟิลิปปินส์ (a contract for the Philippines’ procurement of defense articles) ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี-7 พร้อมลูกจรวดแบบ PG-7V (RPG-7V grenade launchers and ammunition) จากบริษัทโรโซโบรอนเอ็กซ์พอร์ต (Rosoboronexport) ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกและนำเข้าผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการบริการด้านการป้องกันประเทศของรัสเซียให้กับฟิลิปปินส์ อีกด้วย
โดยในระหว่างที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแห่งรัสเซียได้เยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์นั้น รัฐเซียได้บริจาคอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเล็กยาวจู่โจม (assault rifles) จำนวน ๕,๐๐๐ ลำ และรถถังอีกจำนวน ๒๐ คัน ให้แก่กองทัพฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ด้านการป้องกันประเทศ ระหว่างมอสโกกับมะนิลา อีกทั้งกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงอาเซียนใน ADMM-Plus อีก ๘ ประเทศ อันได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลี รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา