ภาพจาก bbc.co.uk

อินโดนีเซียกำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่ห้ามตัวละครที่มีลักษณะเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ออกสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการขัดขวางสิทธิของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ

ข้อกำหนดที่ห้ามนำเสนอรายการโทรทัศน์ที่มีตัวละครแสดงออกในลักษณะที่เป็นเลสเบียน เกย์ รักร่วมสองเพศ (bisexual) หรือ คนข้ามเพศ (transgender) นี้ ได้ถูกเสนอเป็นร่างกฎหมายการแพร่เสียงแพร่ภาพและกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย

นาย Supiadin Aries Saputra สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค NasDem กล่าวว่า “พวกเราไม่อาจยอมรับพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ขัดกับวัฒนธรรมของเรา พวกเราต้องห้ามเสียก่อนที่จะกลายเป็นวิถีชีวิตของคนในสังคมซึ่งจะเป็นอันตรายและบั่นทอนศีลธรรมของคนรุ่นใหม่ได้”

ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่นี้ รายการโทรทัศน์ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงโฆษณาและสารคดีจะต้องได้รับการตรวจสอบก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ผลิตสื่อได้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว
 นาย Hanafi Rais จากพรรค National Mandate กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่ายังมีวิธีการสร้างสรรค์สื่อบันเทิงอื่น ๆ อีกมาก นอกจากวิธีการแสดงออกแบบ LGBT”

ทั้งนี้ การเป็นเกย์นั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในอินโดนีเซีย ยกเว้นในจังหวัด Aceh ที่มีการบังคับใช้กฎหมายชะรีอะฮ์ของศาสนาอิสลาม โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่ามี ชายรักร่วมเพศ ๒ รายได้ถูกปาด้วยก้อนหินในที่สาธารณะหลังถูกจับได้ว่าร่วมเพศกัน

อย่างไรก็ตาม ชุมชนกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศได้รับแรงกดดันจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมทั่วประเทศ ในเดือนพฤษภาคม ตำรวจได้บุกเข้าจับในห้องซาวน่าเกย์ในกรุงจาร์กาตา เป็นชาย ๑๔๑ คนซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายเรื่องสื่อลามกอนาจาร

ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรความรักของครอบครัว (Family Love Alliance – AILA) กำลังผลักดันให้การมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของอินโดนีเซีย ซึ่งการออกกฎหมายดังกล่าวจะทำให้การห้ามการสมรสเพศเดียวกันนั้นมีประสิทธิภาพและกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนก็ได้ออกมาต่อต้านการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวโดย นาย Surpiyadi Widodo Eddyono กรรมการบริหารของสถาบันปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมกล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่านโยบายดังกล่าวเกิดจากพวกต่อต้านรักร่วมเพศ ซึ่งหากเนื้อหาที่เผยแพร่ออกมานั้นมีความรุนแรงก็ควรที่จะมีการเซ็นเซอร์ตามปกติ แต่เห็นว่าตัวละครรักร่วมเพศนั้นไม่ใช่รูปแบบหนึ่งของความรุนแรงที่สมควรมีการเซ็นเซอร์”