ภาพจาก phnompenhpost

นางพยาบาล Tammy  Davis-Charles ชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในกัมพูชาได้ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดในคดีอุ้มบุญ

Davis-Charles และจำเลยร่วมชาวกัมพูชาอีก ๒ ราย ได้แก่ Samrith  Chakriya นางพยาบาลและ Penh  Rithy ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ถูกตัดสินจำคุก ๑๘ เดือน เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการตั้งครรภ์แทนของกัมพูชา

นอกจากนี้  Davis-Charles ยังต้องโทษปรับจำนวน ๔ ล้านเรียล หรือประมาณ ๑,๐๐๐ เหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ Chakriya และ Rithy ต้องโทษปรับ ๒ ล้านเรียล หรือ ๕๐๐ เหรียญสหรัฐฯ

Sor Lina ผู้พิพากษาเมืองพนมเปญเป็นผู้ทำคำพิพากษาดังกล่าว โดยที่ในขณะนี้กัมพูชายังไม่มีกฎหมายว่าด้วยการตั้งครรภ์แทนหรืออุ้มบุญ และอยู่ในระหว่างการร่างกฎหมาย

จำเลยทั้ง ๓ ถูกฟ้องในฐานเป็นนายหน้าระหว่างหญิงตั้งครรภ์และผู้ว่าจ้างอุ้มบุญ และใช้อุบายให้ได้มาซึ่งเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบสูติบัตร

Davis-Charles ได้จัดตั้งบริษัท Fertility Solutions PGD ขึ้นและดำเนินกิจการที่ประเทศไทยมาตลอด จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้มีคดีน้องแกรมมี่ซึ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงและการปราบปรามอุตสาหกรรม การอุ้มบุญทำให้เธอและบริษัทรับจ้างอุ้มบุญอื่น ๆ ต้องย้ายไปประเทศกัมพูชา และเธอได้จัดให้มีการรับจ้างอุ้มบุญในกัมพูชา ๒๓ รายซึ่ง ๑๘ รายได้รับจ้างอุ้มบุญให้แก่ชาวออสเตรเลีย

แม้ว่าอุตสาหกรรมนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากแต่จะทำอย่างเปิดเผยไม่ได้ โดยพ่อแม่ซึ่งต้องการจะมีลูกเป็นของตัวเองจะต้องจ่ายเงินประมาณ ๕๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐฯ ในการว่าจ้างอุ้มบุญและผู้หญิงที่รับจ้างอุ้มบุญซึ่งมีฐานะยากจนจะได้ส่วนแบ่งประมาณ ๑๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐฯ

เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำสั่งห้ามอุ้มบุญก่อนที่จำเลยทั้ง ๓ จะถูกจับเพียงไม่กี่สัปดาห์ และเมื่อต้นปีนี้เจ้าหน้าที่ได้ประกาศแนวทางปฏิบัติเพื่อให้บิดามารดาผู้รับบุตรที่เกิดจากการอุ้มบุญในกัมพูชาออกนอกประเทศ โดยจะต้องส่งเอกสาร ผลทดสอบดีเอ็นเอ และดำเนินการทางศาล โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาแนวทางดังกล่าวได้ถูกให้แก่สถานทูตประเทศต่าง ๆ อย่างเป็นทางการซึ่งได้กำหนดให้บิดามารดาผู้รับบุตรที่เกิดจากการอุ้มบุญส่งรายงานพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของเด็กให้แก่รัฐบาลกัมพูชาเป็นประจำทุกปี