กฎหมายฉบับใหม่ของอิสราเอลที่อนุญาตให้แบนสื่อต่างประเทศที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ

ข่าวต่างประเทศ 12 Apr 2024

รัฐสภาอิสราเอลอนุมัติกฎหมายฉบับใหม่เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ค.ศ. ๒๐๒๔ ที่ให้อำนาจแก่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารในการสั่งปิดเครือข่ายของสำนักข่าวต่างประเทศที่ดำเนินการในอิสราเอลชั่วคราว

กฎหมายฉบับใหม่กำหนดข้อจำกัดต่าง ๆ แก่สำนักข่าวอัลจาซีราในอิสราเอล โดยให้อำนาจแก่รัฐบาลในการดำเนินการต่อสำนักข่าวเครือข่าย ในการริบอุปกรณ์และบัตรสื่อมวลชนของนักข่าว นอกจากนี้ รัฐบาลอิสราเอล
ยังสามารถจำกัดการออกอากาศและการเข้าถึงเว็บไซต์แบบสาธารณะได้ โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า
อาจมีผลกระทบในวงกว้างต่อการรายงานข่าวของสื่อระหว่างประเทศเกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซา

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ประกาศว่าจะทำการปิดสื่อและระงับการออกอากาศของสำนักข่าวอัลจาซีราตามกฎหมายฉบับใหม่ที่อนุญาตให้รัฐบาลสั่งแบนสื่อต่างประเทศที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งรัฐบาลของเนทันยาฮูได้วิพากษ์วิจารณ์มาเป็นเวลานานเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักข่าวอัลจาซีรา โดยกล่าวหาว่ามีอคติต่อต้านอิสราเอลในขณะที่เขาก็ได้รับแรงกดดันจากสาธารณะที่เพิ่มขึ้น และเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในที่สาธารณะเกี่ยวกับการปฏิบัติการในฉนวนกาซา

ในวันที่ ๑ เมษายน ค.ศ. ๒๐๒๔ เนทันยาฮู กล่าวหาว่า เครือข่ายของสำนักข่าวอัลจาซีราได้คอยเป็นกระบอกเสียงให้แก่กลุ่มฮามาส และมุ่งต่อต้านกองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอล

สำนักข่าวอัลจาซีรามีสำนักงานที่ตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเลม เขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา ซึ่งเครือข่ายของสำนักข่าวอัลจาซีราที่ผลิตการรายงานข่าวภาคสนามเกี่ยวกับสงครามของอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซาได้ประณามการตัดสินใจดำเนินการดังกล่าวของอิสราเอล โดยให้คำมั่นว่าจะไม่หยุดดำเนินการรายงานข่าวอย่างกล้าหาญและมีความเป็นมืออาชีพ โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นมีสงครามระหว่างอิสราเอล และฮามาส ได้มีการรายงานข่าวภาคพื้นดินที่สำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลและผลกระทบในด้านมนุษยธรรมเรื่อยมา

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. ๒๐๒๔ โฆษกของสหประชาชาติประณามรายงานการจับกุมและทำร้ายร่างกายอิสมาอิล
อัลกูล นักข่าวอัลจาซีราชาวอาหรับ ขณะที่เขากำลังรายงานข่าวจากศูนย์การแพทย์อัลชิฟา ในเมืองกาซา

ข่าวประจำวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗
เรียบเรียงจาก https://edition.cnn.com/2024/04/01/middleeast/israel-al-jazeera-media-law-intl-hnk/index.html?fbclid=IwAR1ozVjmFueUvw8a3SIY8zQSZWbNpcMuqqLJQbUi2DhEQKUbrJlBgWqoez4_aem_AaJ8AvuNC_VLYAAgo5q_Oyr8y8DIdvk7LDaWEVTDweCMHIy9udyO1xXzHubPQWWp1BCsNMo6wUctVwKA1zTzI_PT

*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย