รัฐมนตรีของอังกฤษเตรียมออกกฎหมายห้ามเลี้ยงสุนัขพันธุ์ American XL Bully (พิทบูล)
ข่าวต่างประเทศ 31 Oct 2023
Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษออกประกาศว่าการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ American XL Bully หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อพิทบูลจะถูกกำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายภายในสิ้นปีนี้
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกสุนัขสายพันธุ์ American XL Bully ๒ ตัวรุมกัดในเมือง Stonnall รัฐ Staffordshire ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียวเด็กชายอายุ ๑๐ ขวบถูกสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวทำร้ายขณะกำลังเล่นฟุตบอล ทั้ง ๒ เหตุการณ์เกิดขึ้นในเขต West Midlands ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ และไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้สุนัข American XL Bully ได้ขย้ำเด็กหญิงวัย ๑๑ ปีใน Birmingham ซึ่งมีการบันทึกคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย
คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงประเด็นดังกล่าว เด็กหญิง Ana Paun หนึ่งในเหยื่อที่ถูกสุนัขกัด ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่า ตนเองกลัวมากและอยากให้รัฐบาลแบนสุนัขพันธุ์นี้โดยเร็ว ส่วน Emma Whitfield คุณแม่ของ Jack Lis ลูกชายวัย ๑๐ ขวบที่เสียชีวิตจากการถูกสุนัขกัด เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ก็ออกมาตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ทั้งที่เคยมีกรณีที่เด็กถูกสุนัขกัดจนตายมาหลายต่อหลายแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นายกรัฐมนตรี Sunak ระบุว่าสุนัขพันธุ์ American XL Bully เป็นภัยอันตรายต่อสังคมและรัฐบาลจะรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุน่าสลดใจดังกล่าวซ้ำรอยอีก นอกจากนี้ ยังได้มีการมอบหมายให้บรรดารัฐมนตรีนําตำรวจและผู้เชี่ยวชาญมาหารือกัน เพื่อกำหนดสายพันธุ์ของสุนัขที่เป็นอันตรายต่อผู้คนในสังคมและกําหนดให้สุนัขเหล่านั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันนี้ American XL Bully ยังไม่ถูกกำหนดให้เป็นสายพันธุ์ที่ผิดกฎหมาย แต่ทางการจะรีบดำเนินการโดยเร็วเพื่อสั่งห้ามสุนัขพันธุ์นี้โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายควบคุมการเลี้ยงสุนัขที่เป็นอันตราย และการปรับแก้กฎหมายจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้
ข่าวประจำวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.dailymail.co.uk/news/article-12522459/XL-bullies-banned-attacks-claim-victims-Rishi-Sunak-finally-vows-crack-mutant-dogs-man-dies-set-two-animals-horrific-footage-emerges-boy-10-mauled-plays-outside-house.html
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกสุนัขสายพันธุ์ American XL Bully ๒ ตัวรุมกัดในเมือง Stonnall รัฐ Staffordshire ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียวเด็กชายอายุ ๑๐ ขวบถูกสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวทำร้ายขณะกำลังเล่นฟุตบอล ทั้ง ๒ เหตุการณ์เกิดขึ้นในเขต West Midlands ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ และไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้สุนัข American XL Bully ได้ขย้ำเด็กหญิงวัย ๑๑ ปีใน Birmingham ซึ่งมีการบันทึกคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย
คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงประเด็นดังกล่าว เด็กหญิง Ana Paun หนึ่งในเหยื่อที่ถูกสุนัขกัด ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่า ตนเองกลัวมากและอยากให้รัฐบาลแบนสุนัขพันธุ์นี้โดยเร็ว ส่วน Emma Whitfield คุณแม่ของ Jack Lis ลูกชายวัย ๑๐ ขวบที่เสียชีวิตจากการถูกสุนัขกัด เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ก็ออกมาตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ทั้งที่เคยมีกรณีที่เด็กถูกสุนัขกัดจนตายมาหลายต่อหลายแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นายกรัฐมนตรี Sunak ระบุว่าสุนัขพันธุ์ American XL Bully เป็นภัยอันตรายต่อสังคมและรัฐบาลจะรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุน่าสลดใจดังกล่าวซ้ำรอยอีก นอกจากนี้ ยังได้มีการมอบหมายให้บรรดารัฐมนตรีนําตำรวจและผู้เชี่ยวชาญมาหารือกัน เพื่อกำหนดสายพันธุ์ของสุนัขที่เป็นอันตรายต่อผู้คนในสังคมและกําหนดให้สุนัขเหล่านั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันนี้ American XL Bully ยังไม่ถูกกำหนดให้เป็นสายพันธุ์ที่ผิดกฎหมาย แต่ทางการจะรีบดำเนินการโดยเร็วเพื่อสั่งห้ามสุนัขพันธุ์นี้โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายควบคุมการเลี้ยงสุนัขที่เป็นอันตราย และการปรับแก้กฎหมายจะแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้
ข่าวประจำวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖
แปลและเรียบเรียงจาก https://www.dailymail.co.uk/news/article-12522459/XL-bullies-banned-attacks-claim-victims-Rishi-Sunak-finally-vows-crack-mutant-dogs-man-dies-set-two-animals-horrific-footage-emerges-boy-10-mauled-plays-outside-house.html
*บทความในเว็บไซต์เป็นผลงานทางวิชาการของผู้เขียนเว็บไซต์ LawforASEAN / สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
หน้าแรก
|
เกี่ยวกับเรา
|
แนะนำอาเซียน
|
ข่าวต่างประเทศ
|
ความตกลง
|
บทความ
|
งานวิจัย
|
กฎหมายน่ารู้
|
ติดต่อเรา
|
แผนผังเว็บไซต์
|
การค้นหาขั้นสูง
© 2017 Office of the Council of State.